Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
Mengapa dompet Anda menyusut lebih cepat setiap tahun? Hal yang perlu Anda ketahui tentang inflasi
บ่อยครั้งที่คุณไม่เข้าใจว่า ทำไมเงินเดือนเพิ่มขึ้นแต่ของกลับแพงขึ้น จนกระทั่งเงินที่เหลือในกระเป๋าลดลงจริง ๆ นั่นคือผลของภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) ที่ทำให้ค่าเงินของคุณลดลงทุกวัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายของเงินเฟ้อ ผลกระทบต่อชีวิต และวิธีการบ้านหลังจากนั้นได้อย่างชัดเจน
เงินเฟ้อคืออะไร เข้าใจได้ง่าย ๆ ในมุมมองที่ใช้ได้จริง
ลองนึกภาพ 50 บาทเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สามารถซื้อข้าวแกงได้หลายจาน แต่วันนี้เงิน 50 บาทเดิมซื้อข้าวแกงได้เพียงจานเดียว นั่นคือภาวะที่ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรียกว่าความหมายของเงินเฟ้อ
อีกวิธีหนึ่งในการมองเรื่องนี้ก็คือ ค่าของเงินของคุณลดลง ทำให้คุณต้องจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อของชิ้นเดิม สรุปง่าย ๆ: เงินเฟ้อทำให้ของแพงขึ้น ค่าเงินหดลง
เพื่อให้เข้าใจชัดขึ้น ลองดูตารางราคาสินค้าจำเป็นจากปี 2564 ถึง 2567:
เห็นได้ชัดว่า ราคาของสินค้าที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นมาก ในบางกรณีเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ภายในเพียงไม่กี่ปี
ทำไมเงินเฟ้อถึงเกิดขึ้น สาเหตุหลักที่คุณต้องรู้
ภาวะเงินเฟ้อไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่เพราะเหตุเดียว แต่มาจากปัจจัยหลายประการที่ทำงานพร้อมกัน:
1. ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นแต่อุปทานไม่ทัน
เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังวิกฤติ ผู้บริโภคมีเงินซื้อของมากขึ้น แต่โรงงานยังไม่สามารถผลิตสินค้าให้เพียงพอได้ทันที (เรียกว่า Revenge Spending) ผู้ขายจึงเห็นโอกาส ปรับราคาสินค้าให้สูงขึ้น เพราะรู้ว่าลูกค้ายังคงซื้อ
2. ต้นทุนการผลิตพุ่งสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และเหล็กในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อการผลิตทั่วโลกหยุดชะงัก ประตูเศรษฐกิจทั่วโลกได้ปิดลงเพียง 2-3 ปี ค่าใช้สอยผลิตสินค้าจึงแพงขึ้นเพื่อให้ถูกกว่า ผู้ผลิตจึงต้องเพิ่มราคาสินค้าออกมา
ตัวอย่างเช่น: ราคาน้ำมันในปี 2020 ตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ (เพราะไม่มีคนใช้) แต่เมื่อสกปรกปิดไปและประเทศเปิดตัวใหม่ ราคาน้ำมันก็พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
3. ปัญหาการขนส่ง (Supply Chain Disruption)
ตู้คอนเทนเนอร์ขาด ชิปเซมิคอนดักเตอร์หายาก เมื่อบ้านเราทั้งโลกต่างทำงานจากบ้าน ความต้องการคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โต แต่การผลิตล่าช้า ราคาจึงพุ่งสูง
4. รัฐบาลพิมพ์เงินเพิ่ม
เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว รัฐบาลหลายประเทศพิมพ์เงินออกมามากมาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจ ดังนั้นปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นอย่างสวนกระแส ส่งผลให้เงินมีมูลค่าน้อยลง และราคาสินค้าเพิ่มขึ้น
ข้อมูลปัจจุบัน: เงินเฟ้อของไทยลดลงแล้วหรือ
ตามข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เดือนมกราคม 2567:
ข่าวดีคือเงินเฟ้อของไทยกำลังชะลอตัวลง แต่ก็ยังไม่ควรหย่อนระวัง เพราะความเสี่ยงจากเหตุการณ์ในต่างประเทศยังคงมีอยู่
ใครถูก ใครได้ประโยชน์จากความหมายของเงินเฟ้อ
กลุ่มคนที่ได้ประโยชน์:
กลุ่มคนที่เสียประโยชน์:
ตัวอย่างชี้ให้เห็น: บริษัท ปตท. ในครึ่งปีแรกของ 2565 ได้กำไรสุทธิ 64,419 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูง นี่คือการได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อแบบแท้ ๆ
เงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อชีวิตและเศรษฐกิจอย่างไร
ผลกระทบต่อประชาชน:
ผลกระทบต่อธุรกิจ:
ผลกระทบต่อประเทศ:
เงินเฟ้อกับเงินฝืด ต่างกันอย่างไร
เงินเฟ้อ: ระดับราคาสินค้าและบริการ เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ค่าเงินลดลง
เงินฝืด: ระดับราคาสินค้าและบริการ ลดลง อย่างต่อเนื่อง ค่าเงินเพิ่มขึ้น
แม้ว่าทั้งสองปรากฏต่างกัน แต่หากกำลังรุนแรง ทั้งสองอย่างจะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ เงินฝืดจะทำให้ประชาชนไม่ซื้อของ ธุรกิจไม่มีรายได้ เศรษฐกิจจึงชะลอตัวและล้มเหลว
ประวัติศาสตร์เงินเฟ้อของไทย ผ่านความสั่นคลอน
ดูเหมือนว่า เงินเฟ้อสูง มักมาจากเหตุการณ์ระหว่างประเทศและแรงกดดันด้านพลังงาน
เมื่อเงินเฟ้อมา ควรทำอะไร คำแนะนำปฏิบัติจริง
1. ลงทุนในสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าตามอัตราเงินเฟ้อ
2. เลือกตราสารหนี้ที่ปรับได้
3. หลีกเลี่ยงการกู้เงินที่ไม่มีผลตอบแทน
4. ติดตามข่าวสาร
5. สำหรับนักลงทุนที่กล้าเสี่ยง
หุ้นไหนได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ
สรุปสั้น ๆ: สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อ ไม่ใช่สิ่งร้ายเกินไปหากอยู่ในระดับที่พอเหมาะ (ปกติ 2-3% ต่อปี) ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตและสร้างงานได้ แต่ถ้าเงินเฟ้อสูงเกินไป (Hyper Inflation) ก็จะเป็นภัยเช่นเดียวกับเงินฝืด
ความหมายของเงินเฟ้อ ที่สำคัญคือ “เงินของคุณหดลงทุกวัน” ดังนั้นมิให้เงินนั่งเฉยในบัญชี ลองนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการเติบโตเพื่อให้ทัดเทียมกับอัตราเงินเฟ้อ หรือเลือกการลงทุนที่เหมาะกับความเสี่ยงของคุณ
คุณเลือกจะเป็นคนที่ทำให้เงินเฟ้อหรือคุณจะให้เงินเฟ้อทำให้คุณ