Apa itu Leverage? Mengapa trader perlu memahami alat ini

ถ้าคุณเพิ่งเข้าสู่โลกการเทรด ทำความเข้าใจกับค่า Leverage (เลเวอเรจ) ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เครื่องมือนี้ปรากฏตัวในการเทรด Forex, ทองคำ, น้ำมัน, Bitcoin และสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ เกือบทุกที่ แต่จริงๆแล้ว ค่า Leverage คือการที่เราใช้เงินยืมจากโบรกเกอร์เพื่อให้ตำแหน่งการเทรดของเรามีขนาดใหญ่ขึ้น

คำถามที่มักถูกถามคือ: ค่า Leverage มีประโยชน์จริงหรือ? เราคำนวณกำไรขาดทุนได้อย่างไร? และควรใช้ระดับไหน?

บทความนี้จะตอบทุกข้อสงสัยของคุณ

ค่า Leverage (เลเวอเรจ) ทำงานอย่างไร

ค่า Leverage คือ เครื่องมือที่อนุญาตให้เทรดเดอร์ควบคุมตำแหน่งที่มีมูลค่ามากกว่าจำนวนเงินทุนที่ตนเองมี ด้วยระบบนี้ คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนสำหรับสินทรัพย์ที่ต้องการซื้อ แต่เพียงแต่จ่ายมาร์จิ้น (เงินประกัน) เป็นเปอร์เซ็นต์เล็กน้อย

ตัวอย่างเช่น หากค่า Leverage เป็น 1:100 เงิน 1,000 ดอลลาร์ของคุณสามารถควบคุมตำแหน่งมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ได้

ประโยชน์ที่มองเห็นได้: ศักยภาพกำไรเพิ่มขึ้น 100 เท่า

ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่: ความเสี่ยงขาดทุนก็เพิ่มขึ้น 100 เท่าเช่นกัน

กรณีศึกษา: ค่า Leverage ในตลาดทองคำและคริปโต

สถานการณ์ที่ 1 - การเทรดทองคำแบบขาขึ้น

สมมติคุณเห็นว่าราคาทองคำควรจะเพิ่มขึ้นจากราคา 1,530 USD ต่อ ounce

หากไม่ใช้ค่า Leverage:

  • ลงทุน 1,530 USD ซื้อทองคำ 1 ounce
  • ราคาเพิ่มขึ้น 10 USD เป็น 1,540 USD
  • กำไรทั้งสิ้น: 20 USD

หากใช้ค่า Leverage 100 เท่า:

  • เงินประกัน 1,530 USD ควบคุมทองคำ 100 ounce
  • ราคาเพิ่มขึ้น 10 USD ต่อ ounce
  • กำไรทั้งสิ้น: 2,000 USD (เพิ่มขึ้น 100 เท่า!)

นี่คือจุดดึงดูดของเลเวอเรจ

สถานการณ์ที่ 2 - ค่า Leverage ในตลาด Bitcoin

สมมติคุณมี 1,000 ดอลลาร์ และต้องการเทรด Bitcoin ด้วยค่า Leverage 10:1

ทางเลือก A: ไม่ใช้ค่า Leverage

  • ใช้เงิน 1,000 USD ซื้อ BTC ที่ราคา 50,000 USD/BTC ได้ 0.02 BTC
  • Bitcoin เพิ่มขึ้น 10% เป็น 55,000 USD
  • มูลค่าพอร์ตโฟลิโอ: 1,100 USD
  • กำไร: 100 USD (ผลตอบแทน 10%)

ทางเลือก B: ใช้ค่า Leverage 10:1

  • เงิน 1,000 USD เป็นมาร์จิ้น ควบคุมตำแหน่ง 10,000 USD
  • ที่ราคา 50,000 USD/BTC ได้ 0.2 BTC
  • Bitcoin เพิ่มขึ้น 10% เป็น 55,000 USD
  • มูลค่าตำแหน่ง: 11,000 USD
  • กำไร: 1,000 USD (ผลตอบแทน 100%)

แต่ถ้าตลาดขึ้นผิดทาง:

  • Bitcoin ลดลง 10% เป็น 45,000 USD
  • มูลค่าตำแหน่งของคุณ: 9,000 USD
  • ขาดทุน: 1,000 USD (สูญเสียทั้งหมด!)

ความเสี่ยงของค่า Leverage ที่ต้องรู้

1. การขาดทุนแบบ “สปริง” (Rapid Liquidation)

ตลาดอาจเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่คาดหวัง ด้วยค่า Leverage สูง ขาดทุนเกิดขึ้นได้ในเสี้ยววินาที ไม่ให้คุณเวลาปิดตำแหน่งเพื่อสำรองเงิน

2. Margin Call - เรียกเพิ่มเงินประกัน

เมื่อตำแหน่งของคุณลดลงถึงระดับวิกฤต โบรกเกอร์จะส่งสัญญาณ “Margin Call” ขอให้คุณเพิ่มเงินทันที ถ้าไม่ทำได้ ตำแหน่งจะถูกปิดอัตโนมัติ และคุณจะสูญเสียเงินทั้งหมดที่มี

3. ผลกระทบทางจิตใจ

การใช้ค่า Leverage สูง ๆ ทำให้เกิดความเครียด ความกลัว การตัดสินใจในการเทรดจึงมักขาดเหตุผล และหลายครั้งนักเทรดจึงมักสูญเสียเงินเพราะการตัดสินใจที่ผิด

4. ความผันผวนของตลาด

ตลาด Forex และคริปโต เป็นตลาดที่ผันผวนสูงมาก การเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดจะทำให้ค่า Leverage “กัดกรรม” กำไรของคุณได้ทันทีทันใด

5. ความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิด

ถึงแม้ว่าคุณทำกำไรได้ 100 ครั้งติดต่อกัน แต่การเทรดผิดเพียงครั้งเดียวด้วยค่า Leverage สูง ก็อาจเคลื่อนชำรุดทั้งบัญชีของคุณ

ประโยชน์ของค่า Leverage ที่ควรจำ

ถ้าใช้อย่างชาญฉลาด ค่า Leverage มีประโยชน์มากมาย:

1. ขยายผลตอบแทน

กำไรสามารถเพิ่มขึ้นหลายเท่าได้ ไม่ว่าจะเป็น 10 เท่า 50 เท่า หรือมากกว่าก็ได้ (ขึ้นอยู่กับค่า Leverage ที่เลือก)

2. ลดต้นทุนเงินทุนเริ่มต้น

คุณไม่ต้องมีเงินมากมายเพื่อเข้าเทรด สินทรัพย์ราคาแพง เช่น Bitcoin ราคา 55,000 USD ก็สามารถเทรดได้ด้วยเงินเพียง 1,000-2,000 USD

3. ความยืดหยุ่นในการจัดการเงิน

ค่า Leverage ช่วยให้คุณกระจายเงินไปยังโอกาสต่าง ๆ ได้มากขึ้น แทนที่จะใส่ทั้งหมดในการเทรดเดียว

4. ฝึกทักษะการบริหารความเสี่ยง

การใช้ค่า Leverage บังคับให้คุณเรียนรู้ Stop Loss, Risk Management ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการเทรด

5. เทียบเท่าการกระจายการลงทุน

ด้วยค่า Leverage คุณสามารถเข้าหลายตำแหน่งพร้อมกัน แทนที่จะเทรดแค่หนึ่งตำแหน่งเท่านั้น

ควรใช้ค่า Leverage เท่าไหร่?

สำหรับมือใหม่

เริ่มต้นด้วยค่า Leverage ต่ำ เช่น 2:1, 4:1, หรือ 5:1 สิ่งนี้ช่วยให้คุณสัมผัสการทำงานของค่า Leverage โดยไม่เสี่ยงขาดทุนใหญ่

สำหรับผู้มีประสบการณ์

คุณอาจเพิ่มขึ้นเป็น 10:1, 20:1, หรือสูงกว่า แต่ต้องมี Stop Loss ที่ชัดเจนและระบบบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด

กฎทองของการใช้ค่า Leverage

  • ไม่ควรเสี่ยงมากกว่า 2% ของบัญชีต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
  • ตั้ง Stop Loss ที่ประมาณ 50-100 pips (ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์)
  • อย่าเทรดด้วยอารมณ์
  • ระวัง Margin Call

ความแตกต่างระหว่าง Margin และ Leverage

ความสับสนระหว่างคำสองคำนี้เป็นเรื่องปกติ:

หัวข้อ Margin (มาร์จิ้น) Leverage (เลเวอเรจ)
ความหมาย เงินประกันที่คุณต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์ อัตราส่วนของการยืมเงินเพื่อเทรด
เป็นสิ่ง เงิน (ดอลลาร์) อัตราส่วน (เช่น 1:50)
ใช้ประโยชน์ ป้องกันการสูญเสีย ทำให้โบรกเกอร์มั่นใจ ขยายโอกาสกำไร
ตัวอย่าง มาร์จิ้น 5% = ฝากเงิน 5,000 USD เพื่อเทรด 100,000 USD Leverage 1:100 = เทรด 100,000 USD ด้วยเงิน 1,000 USD

หลักการสำคัญ: Margin คือกำหนดเงินขั้นต่ำที่ต้องมี ในขณะที่ Leverage คือเครื่องมือที่ช่วยให้ Margin ของคุณมีอำนาจมากขึ้น

สรุป: ค่า Leverage - เครื่องมือที่มีคมสองด้าน

ค่า Leverage ไม่ได้เป็นสิ่งดีหรือสิ่งเลวโดยเนื้อแท้ มันขึ้นอยู่กับ วิธีการใช้ ของคุณ:

ใช้ถูก: กำไรเพิ่มขึ้นหลายเท่า ลดทุนเริ่มต้น ความยืดหยุ่นสูง

ใช้ผิด: ขาดทุนเกินทุน เรียก Margin Call หรือออกจากตลาดด้วยมือเปล่า

กฎง่าย ๆ ที่จำไว้:

  • เริ่มต้นด้วยค่า Leverage ต่ำ
  • ตั้ง Stop Loss ก่อนเทรด
  • อย่าเสี่ยงมากเกินไปต่อการเทรดครั้งเดียว
  • เรียนรู้ Margin Management ให้ดี
  • ฝึกบ้าง ทดลองบ้าง ก่อนใช้จริง

การทำความเข้าใจเรื่องค่า Leverage และการใช้มันอย่างสงวนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างการเทรดที่ยั่งยืนและมีผลกำไร

BTC0.2%
Lihat Asli
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
  • Hadiah
  • Komentar
  • Posting ulang
  • Bagikan
Komentar
0/400
Tidak ada komentar
  • Sematkan

Perdagangkan Kripto Di Mana Saja Kapan Saja
qrCode
Pindai untuk mengunduh aplikasi Gate
Komunitas
Bahasa Indonesia
  • 简体中文
  • English
  • Tiếng Việt
  • 繁體中文
  • Español
  • Русский
  • Français (Afrique)
  • Português (Portugal)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • بالعربية
  • Українська
  • Português (Brasil)